You are currently viewing หน้าที่ของพระภูมิ

หน้าที่ของพระภูมิ

หน้าที่ของพระภูมิ
🔸ผู้ถาม : ผมเห็นศาลพระภูมิ บางบ้านตั้ง ๒ ที่
🔹หลวงพ่อ : ดี! พระภูมิจะได้สบายๆ หลังนี้ร้อนไปอยู่หลังโน้น หลังโน้นหนาวไปอยู่หลังนี้ จะเป็นไรไป เป็นเครื่องการแสดงยอมรับนับถือ ไม่ใช่ของแปลก
ไม่ใช่ว่าเกณฑ์พระภูมิมาอยู่ที่ศาล เรานี่คิดว่าพระภูมิมาอยู่ที่ศาลนี่ก็ไม่เป็นไรนะ
แต่จริงๆ แล้วท่านมีวิมานของท่าน ท่านเป็นเทวดา องค์หนึ่งคุมพื้นที่เป็นกิโลนะ ไม่ใช่บ้านละองค์นะ เรื่องพระภูมิเจ้าที่ นี่มีเรื่องเยอะที่เคยพบมา เมื่อปี ๒๕๐๐ ฉันไปป่วยที่กรมแพทย์ทหารเรือ
แล้วตอนนั้นก็ปรากฎว่าคืนวันหนึ่ง ตี ๒ ฉันตื่นขึ้นเห็นคนคนหนึ่งขึ้นที่หน้าตึก ตึกคนไข้นะ ตึกเขาก็ใหญ่แต่มันก็มีฝา แต่เขาให้เห็นไม่ใช่นั่งกรรมฐานนะ นั่งธรรมดา ตื่นขึ้นก็ลุกขึ้นหยิบนั่นหยิบนี่ หยิบน้ำขึ้นมากินบ้างอะไรบ้าง เห็นคนขึ้นที่หน้าตึก
ก็สังเกตดูคนคนนี้ จะไปไหนกัน เขาเดินไปตามเตียงคนไข้ ไปถึงแต่ละเตียง แกหยุดนิดหนึ่งหยุดมอง แล้วเดินผ่านไป แล้วที่นี้มาที่ห้องที่ฉันอยู่ มันเป็นเตียงที่ ๓ มันเป็นเตียงกั้นกลางนะ พอถึงเตียงนั้นแกยืนนาน ยืนมองอยู่นาน เดี๋ยวก็เลิกจากเตียงนั้นมาเตียงต่อมา แล้วผ่านมาถึงฉัน ฉันยังไม่นอน ยังนั่งอยู่
ฉันก็ถามว่า “เดี๋ยวก่อนซิจะไปไหน? มาจากไหน? คุยกันก่อน”
แเกเลยบอก “ผมตั้งใจจะมาคุยกับท่าน” ได้เรื่องเลย! ถามว่า “คุณเป็นใคร?” แต่งตัวเป็นคนธรรมดาไม่มีเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้น เก่าด้วยซิ! คงจนใช่ไหม
น่ากลัวเมื่อเวลาจะตายแกแต่งตัวแบบนั้น โดยมากเขาจะมาในลักษณะตาย ในลักษณะจริงเขาสวย พระภูมินะ ก็ยืนคุยกัน ท่านก็บอกว่า “ผมเป็นภูมิเทวดา” ถามว่า “รักษาเขตไหนบ้าง? ในกรุงเทพฯนี่นะ แกบอกระยะทางเป็นกิโล
เลยถามว่า “คุณคนเดียวจะรู้ได้อย่างไร? มีหน้าที่อะไร? แกบอกว่า “ผมรับรู้การทำความดีและทำความชั่วของคน ใครทำความดีผมก็บันทึก ทำความชั่วผมก็บันทึก” ถามว่า “แล้วก็คนเป็นแสนในเขตของคุณน่ะ คุณจะรู้ได้อย่างไร? คนต่างคนต่างอยู่ ต่างกรรมต่างวาระ ทำไม่เสมอกัน บางที ก็ทำเวลาเดียวกัน คุณจะรู้ได้อย่างไร?”
แกบอกว่า อย่าลืมว่าจิตใจผมเป็นทิพย์นะครับ”
แน่ะ! คุยเสียด้วย แล้วก็ถามว่า “วิธีจดคุณทำอย่างไร?” แกมามีมือเปล่า แกชูมือมาเป็นกระดาษ
แผ่น ขึ้นติ๊กๆ ขึ้นเป็นชื่อคนว่าทำอะไรๆ
แกบอกว่า “ขึ้นอย่างนี้ครับ” ของเขาไม่ต้องใช้เครื่อง
แล้วเวลาเดินมาก็ไม่ต้องถือกระดาษ ต้องการกระดาษมาเลย แล้วถามว่า “จริงๆ แล้วมีกระดาษจดแบบนี้หรือ?”
แกบอก “เปล่า! ท่านถามผมก็ทำให้ดู” นี่เล่นกับพระภูมิ พระภูมิไม่ก้อยนะ ไม่งั้นท่านเป็นเทวดาไม่ได้ เทวดาต้องฉลาด ถ้าโง่เป็นเทวดาไม่ได้ ความจริงเขารู้กฎของกรรม กฎของกรรมไม่ต้องไปนั่งจด ถ้าเขาทำอะไรจะมีความสุขหรือมีความทุกข์
หรือทำกรรมดีหรือไม่ดี มันปรากฏแก่ใจเขาเอง เขาเล่าถึงตอนนี้นะ เลยถามว่า “เมื่อกี้นี้คุณไปยืนที่ตรงนั้นทำไม?”
แกบอกว่า ตี ๓ นี่ เจ้าคนนี้จะมีอาการเป็นแบบนี้ แล้วก็ถ้าอาการเป็นแบบนี้เกิดขึ้นนะ ต้องเอายาในตู้ของหมอนะ ให้หมอใช้ยาขนานนี้ฉีด” แล้วแกคุยประเดี๋ยวแกก็ไป พอไปแล้วตี ๓ คนนั้นก็ดิ้นตึงตังโครมครามเป็นอาการแบบนั้น พอดีขณะที่คุยอยู่นี่ หมอและพยาบาล เขาฟังอยู่ อยู่ใกล้ๆ เขาได้ยิน เขาเลยวิ่งไปเอายาหลอดนั้นฉีด มาบรรเทา ก็คิดว่าตายเหมือนกัน ปรากฏว่าพอรุ่งขึ้น ๔ โมงเช้า เดินที่สนามหญ้าตึกสบายขึ้น นี่อำนาจภูมิเทวดานะ ภูมิเทวดาที่เป็นหมอก็มีนะ
เอาละ ฉบับนี้ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ เอาไว้พบกันใหม่ฉบับหน้า..สวัสดี
จาก​หนังสือ​ธัมม​วิโมกข์​ปี​ที่​ ๓๙ ฉบับที่ ๔๓๙ หน้าที่ ๗๖ -​ ๗๗