ฌานหลับ
ความจริงถ้าเราสามารถทำจิตเข้าถึงฌาน
ได้ทุกวัน ถ้าทำเข้าถึงฌานได้ทุกวันนี่การตายของเราทั้งหมด แม้แต่เรื่องนรกเลิกกลัวได้ใช่ไหม
นี่วิธีเข้าฌานแบบง่ายๆ ก็นอนหลับเข้าฌาน ฌานหลับ อันนี้เป็นฌานจริงๆ คือว่าเวลานอนลงไปเราจะภาวนาอย่างไรก็ได้ที่เป็นกุศล แต่ว่าจะพิจารณาลมหายใจเข้าออกเฉยๆ ก็ได้ หรือว่าจะพิจารณาขันธ์ ๕ ก็ได้ ถ้าจิตอยู่ในอารมณ์ทั้ง ๓ ประการนี้ก็หลับไป จงทราบว่าถ้าจิตเราไม่เข้าถึงปฐมฌานเพียงใด มันจะไม่ยอมหลับ
ทีนี้ถ้าเราภาวนาอยู่หรือพิจารณาอยู่กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกอยู่ แล้วก็หลับไป ขณะหลับตอนนั้นจิตเข้าถึงปฐมฌานแล้วจึงหลับ ในขณะที่หลับอยู่ท่านถือว่าหลับทรงอยู่ในฌาน ถ้าตายเวลานั้นเป็นพรหม
นี่หากว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทสามารถทำได้อย่างนี้ทุกวันนะ เวลานอนลงไป ภาวนาหรือพิจารณาหรือกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกก็จงอย่าบังคับ ถ้ามันจะหลับก็อย่าบังคับให้มันทรงตัวอยู่ ปล่อยให้หลับไปเลย
เมื่อเริ่มลงนอนภาวนาว่า “พุท” ไม่ทัน “โธ” แล้วหลับยิ่งดีใหญ่ เพราะฌานนี่เราต้องการเข้าเร็วที่สุดที่จะเร็วได้ ไม่ใช่มานั่งโคลงกันใช่ไหม การเข้าฌานนี่เขาต้องการเร็วมาก หมายความว่าอย่างเรานอนหลับพอพ้นจากฐานสุขปั๊บ รู้สึกตัวเข้าฌานได้ทันที อันนี้เขาต้องการ
วิธีที่เข้าฌานเขาต้องการให้เร็วที่สุดที่จะเร็วได้ ไม่ใช่ว่านั่งภาวนาได้นานๆ จิตถึงเข้าฌาน นี่ไม่ทันกิน ไม่ทัน ดีไม่ดีเดินๆไปเจอมดตัวเล็กๆ เห็นหน้าแล้วเราชอบใจหัวเราะก๊ากๆ ตกใจตาย เลยเข้าฌานไม่ทันเลย
นี่การเข้าฌานถือว่าให้เร็วที่สุด เพราะว่าการภาวนาเป็นการทรงจิตให้อยู่ในสมาธิกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกเป็นการทรงจิตให้อยู่ในสมาธิ แต่ว่าสมาธิที่เราจะพึงได้เราต้องการเร็วที่สุดใช่ไหม นี่มันถึงจะทันเพราะว่าเวลาเราจะตายเรานึกไม่ได้เลย
คือนึกไม่ได้ว่าขณะที่เราจะตายมันจะตายโดยฉับพลันหรือค่อยๆ ตาย เราก็ค่อยๆ คุมใจได้ แต่ถ้ามันตายในฉับพลันเราก็ไม่ทัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันว่าเราจะตายเมื่อไหร่เราก็ไม่รู้ ตอนก่อนจะหลับ นอนภาวนาให้หลับไป ให้จิตเป็นทิพย์
ถ้านอนภาวนาหลับไปนี่มันจะหลับเร็วขึ้นทุกวันเลย หนักๆ เข้า พอนึกปั๊บเดียวมันก็หลับ พอหลับแล้ว บางทีเราเคยนอน ๘ ชั่วโมง สบายเลย ถ้าเราหลับด้วยการภาวนา หลับความจริงแค่ ๒ – ๓ ชั่วโมงตื่นมาจะมีกำลังทันทีเพราะจิตมันทรงตัวจิตไม่เหนื่อย
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง