You are currently viewing ” จงอย่าเมตตาแบบโง่ ๆ “

” จงอย่าเมตตาแบบโง่ ๆ “

” จงอย่าเมตตาแบบโง่ ๆ “
พระพุทธเจ้า แบ่งคนไว้เป็น ๔ พวก คือ
๑. อุคฆฏิตัญญู คนมีปัญญาดี
๒. วิปจิตัญญ ปัญญาต่ำมานิดหนึ่ง
๓. เนยยะ พอแนะนำได้ เมื่ออธิบายหลาย ๆ ครั้ง อันนี้คน ๓ จำพวกนี้ พระพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ
๔. ปทปรมะ เอาดีไม่ได้นี้ องค์สมเด็จพระจอมไตร ทรงเสด็จหลีก ไม่ทรงสั่งสอน จะถือว่า พระองค์ขาดเมตตาไม่ได้ ทั้งนี้ เพราะอะไร เพราะสอนเขา เขาไม่รับฟัง
   สำหรับพวกเราก็เหมือนกัน ถ้าจะแสดงเมตตาจิต ก็ดูเสียก่อนว่า คนประเภทนั้นเราควรจะเมตตาไหม แต่เห็นว่าแนะนำแล้ว ไม่ได้ผล ก็จงอย่าสงเคราะห์คนประเภทนั้น หลีกไปเสีย อย่างพระพุทธเจ้าทรงหลีก แต่ทว่าเขาไม่เลื่อมใส ในองค์สมเด็จ พระบรมสุคต ไม่เชื่อพระสัพพัญญู สมเด็จพระบรมครูก็ไม่ทรงสั่งสอน
      นี่ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ใครไปใครมาก็เมตตาเสียดะ เมตตาโง่ ๆ แบบนั้นจะสร้างความเดือดร้อน เหมือนกับเราจะให้ของเขา เขาไม่รับ ไปให้เขาทำไม ไม่ต้องไปอ้อนวอน ไม่ต้องไปแค่นเขาให้รับ และอีกประการหนึ่ง วันเวลา กำหนดระเบียบวินัยเป็นของสำคัญ จงอย่าเมตตาคน เกินกว่าระเบียบวินัย
ดูตัวอย่าง องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา มีพระมหากรุณา ไม่มีขอบเขต แต่องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐทรงวางวินัย ไว้ลงโทษพระ ลงโทษเณร ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่า ถ้าไม่มีระเบียบวินัย คนนั้น เราเมตตาไม่ได้ เพราะเป็นคนเลว พระพุทธเจ้าทรงวางวินัย ไว้กี่พันข้อ ๒๒๗ นี่มัน ยังไม่หมด ยังมี ส่วนอภิสมาจารบ้าง ยังส่วนธรรมะ บ้างที่พระองค์ทรงห้าม นี่เป็นอันว่าพระพุทธเจ้ามีพระมหากรุณาธิคุณ ก็จริงแหล่ แต่ทว่า ทรงเลือกเอาแต่เฉพาะคนดีเท่านั้น
โอวาทธรรม พระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี