คำสอนหลวงพ่อเรื่อง “เปลือกความดี”
.. ท่านพระโยคาวจรทั้งหลาย เวลานี้
เวลาที่จะเจริญพระกรรมฐานเข้ามาถึงแล้ว
ฉะนั้นขอพระโยคาวจรผู้เป็นสาวกขององค์
สมเด็จพระประทีปแก้วอย่าลืมทรงอารมณ์
ความดีในพระพุทธศาสนา
อารมณ์ความดีที่จะเตือนกันไว้เสมอ
ก็คือว่า
“จงอย่าสนใจในจริยาของบุคคลอื่น
อย่าเหยียดหยามคนอื่น อย่าดูถูก
ดูหมิ่นคนอื่น อย่ายกตนข่มท่าน”
เพราะอาการอย่างนี้เป็นอาการของ
ความเลว ที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่าเข้าถึง
“อุปกิเลส”
ฉะนั้นคนที่นินทาคน เสียดสีคน เปรียบ
เปรยว่าคน ถ้าความดีมีอยู่มาก เขาก็ด่าว่า
คนน้อย นินทาคนน้อย เสียดสีคนน้อย
ถ้าความเลวมีอยู่มากก็นินทาและเสียดสี
คนอื่นมาก
ถ้ามีความดีสุดตัวหรือหมดตัวก็
หมายความว่าการนินทาว่าร้ายบุคคลอื่น
ไม่มี ทั้งนี้เพราะว่าคนที่หมดกิเลสหรือคนที่
หมดความชั่วย่อมไม่มองเห็นคนอื่นว่าชั่ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านพุทธบริษัทชาย
หญิงที่เป็นพระโยคาวจรหรือภิกษุสามเณร
ก็ตาม วันนี้ก่อนที่จะทำอะไรทั้งหมดจง
รักษาอารมณ์คือเปลือกความดีในพระพุทธ
ศาสนาให้ทรงตัว
เพราะอาการอย่างนี้เป็นอาการทรง
ฌาน จิตจะมีความเยือกเย็น ฌานจะทรงตัว
ญาณต่างๆ ที่ได้จะมีความผ่องใส
เปลือกของความดีประเภทนี้องค์สมเด็จ
พระจอมไตรตรัสว่า
๑.ท่านทั้งหลายจงรักษาศีลให้บริสุทธิ์
คือ
(๑) เราจะไม่ทำลายศีลด้วยตนเอง
(๒) เราจะไม่ยุยงส่งเสริมให้บุคคลอื่น
ทำลายศีล
(๓) เราจะไม่ยินดีเมื่อบุคคลอื่นทำลาย
ศีลแล้ว
๒.พยายามรักษากำลังใจอย่าให้นิวรณ์
เข้ามาครอบงำขณะที่ทำความดี ถ้าความ
รักในระหว่างเพศเกิดขึ้นให้ใช้กายคตา
นุสสติกับอสุภกรรมฐานเข้าลิดรอนทันที
ถ้าความโกรธความพยาบาทเกิดขึ้น
ความไม่ชอบใจเกิดขึ้นให้ใช้พรหมวิหาร ๔
หรือกสิณ ๔ เข้าลิดรอน
ถ้าหากความง่วงเกิดขึ้นทำใจให้
เข้มแข็ง ลืมตาให้กว้าง ขยี้ตา
ถ้าอารมณ์ฟุ้งซ่านจะเกิดขึ้นก็ให้ใช้
อานาปานุสสติกรรมฐาน (ลมหายใจเข้า
ออก) โดยเฉพาะ รู้ลมเข้าลมออกไว้เป็น
ปกติ ความฟุ้งซ่านจะหมดไป
แล้วเราต้องเป็นผู้มีสติมีปัญญาไม่สงสัย
ในผลของการปฎิบัติ ถ้าผลของการปฎิบัติ
เกิดขึ้นให้ใช้กำลังใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่องเข้า
พิจารณาว่าเป็นความจริงหรือว่าเป็น
อุปาทาน
หลังจากนั้นทรงพรหมวิหาร ๔ ให้เป็น
ปกติ พรหมวิหาร ๔ เป็นความดีที่เลี้ยงทั้ง
ศีลทั้งสมาธิและวิปัสสนาญาณ
“บุคคลใดทรงพรหมวิหาร ๔ ไว้ได้
บุคคลนั้นมีศีลบริสุทธิ์ และสมาธิ
หรือฌานสมาบัติก็ทรงตัว
ปัญญาก็แกล้วกล้ามีความเฉลียวฉลาด
สามารถกำจัดกิเลสให้เป็น
สมุจเฉทปหาน”
ถ้าทรงอาการอย่างนี้ได้ ต้องทำให้
ครบถ้วน อย่าคิดว่าเป็นประเพณี ถ้าเรา
พลาดความดีขั้นเปลือกในพระพุทธศาสนา
นี้เราจะไม่มีโอกาสพบความสุข จะพบ
ความทุกข์นั่นก็คือนรก ..
(พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน)
ที่มาจาก.. ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๔๒๙ หน้าที่ ๒๖-๒๗