คำสอนหลวงพ่อเรื่อง “การทรงอารมณ์ฌานแบบง่ายๆ
.. ใช้คำภาวนาว่า “พุท-โธ” เรารู้ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้านึกว่า “พุท” หายใจออกนึกว่า “โธ” เวลาทำงานทำการที่ไม่ต้องใช้ความคิดก็เอาไปด้วยทำไปด้วย เดินไปเดินมา ก็ภาวนาอยู่ด้วย ยามว่างนั่งเล่นนอนเล่นก็ภาวนาด้วย หนักเข้า “อารมณ์มันจะชิน”
ถึงเวลาคุยกับชาวบ้าน ก็ยังภาวนา เวลาคุยก็คุยไป พอหยุดคุยปั๊ปปากเราหยุดพูด เพื่อนเค้าพูดเราก็ภาวนา ถามว่าถ้าภาวนาจะรู้คำพูดเค้าหรือยังไง? ความจริงใช้ได้เลย จิตใจจับคำภาวนาอยู่อย่างนั้น เค้าพูดทุกคำเรารู้เรื่องแล้ว “ปัญญา” มันจะเกิดทันทีเพราะ “จิตเป็นสมาธิ”
นี่พูดอย่างนี้นะเคยทำมาแล้ว จิตมันเผลอจากงานเองเป็นไม่ได้ มันจับของมันเอง “มันเป็นอาจิณ” โดยที่ไม่ต้องบังคับ ถ้าเราทำเป็นเท่านี้ เรียกว่า “ผู้ทรงฌาน” ในการทรงฌานขณะนี้มันเป็นของง่ายสำหรับลีลาสมาธิ
ถ้าเราจะฝึก “ทิพยจักษุญาณ” ไม่เกิน ๗ วันมันก็ได้ ถ้าเราจะฝึก “อภิญญาสมาบัติ” มันไม่เกิน ๓ เดือนมันก็ได้ เอามันอย่างเดียวแหละ ใครเค้าถามว่าทำยังไง บอกฉันไม่มีเรื่องอะไร ฉันมี “พุท-โธ” อย่างเดียว กำหนดลมหายใจเข้า-ออก หายใจเข้านึกว่า “พุท” หายใจออกนึกว่า “โธ”
ให้มันติดใจจริงๆ ถ้ามันติดใจจริงๆ อารมณ์ฌานมันจะกดกิเลสทั้งหมด ความจุ้นจ้าน ความฟุ้งซ่าน ความโลภ ความโกรธ ความหลง อารมณ์อิจฉาริษยา ค่อนแคะคนนั้น ค่อนแคะคนนี้ จะไม่มีสำหรับเราเลย เพราะว่าถ้าจิตมันทรงฌานน่ะ มันขี้เกียจพูด มันไม่อยากจะพูด ถ้าพูดก็พูดน้อย พูดโดยธรรม แล้วจิตมันจะเป็นสุขตลอดวัน
เมื่อจิตเป็นสุขตลอดวัน ปัญญามันเกิด ปัญญามันดีมากมีความผ่องใส ใครพูดอะไรเข้ามานิดเดียวจะกระทบใจ จะมีความรู้สึกทันทีว่า คำพูดของเขานี้มีความมุ่งหมายยังไง จำไว้นะนักปฏิบัติ ไอ้ที่ยังยุ่ง ยังจุ้นจ้าน ไปแคะคนนั้น ไปว่าคนนี้นะ เรามันเลวเต็มที
จำไว้ด้วยว่าถ้าจิตของเราทรงสมาธิจริงๆ อารมณ์นี่มันจะไม่ยุ่งกับใครเลย อารมณ์จิตจะเป็นสุข เรื่องภาวนานี่ มันไม่ต้องยุ่ง ไม่ต้องบังคับ มันจะเกิดของมันเอง คำว่าเหนื่อย คำว่าทุกข์ คำว่าไม่สบาย ความขัดข้องมันไม่มี ใจมันสบายมาก อารมณ์มันแน่นสนิท นี่วิธีปฏิบัติง่ายๆ ง่ายและได้ผลดี ..
(พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน)